โปเกมอน หรือในชื่อเต็มว่า
พ็อกเก็ตมอนสเตอร์ เป็น
สื่อแฟรนไชส์ที่จัดพิมพ์และเป็นของ
นินเทนโดบริษัทวิดีโอเกมสัญชาติญี่ปุ่น และสร้างโดย
ซาโตชิ ทาจิริ เมื่อปี ค.ศ. 1996 แรกเริ่มออกจำหน่าย
วิดีโอเกมแนวบทบาทสมมุติบนเครื่องเล่นสาย
เกมบอยชนิดเล่นเชื่อมกันได้ระหว่างเครื่องต่อเครื่องพัฒนาโดยบริษัท
เกมฟรีค ตั้งแต่นั้นมา โปเกมอนกลายมาเป็นสื่อแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จและได้กำไรมากเป็นอันดับ 2 รองจาก
แฟรนไชส์มาริโอ โปเกมอนถูก
จำหน่ายในรูปของ
อะนิเมะ มังงะ เกมสะสมการ์ด ของเล่น หนังสือ และสื่ออื่นๆ แฟรนไชส์โปเกมอนได้ฉลองครบรอบ 10 ปีไปเมื่อปี ค.ศ. 2006 และจนถึงวันที่ 28 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 ยอดขายสะสมของวิดีโอเกม (รวมถึงเครื่องเล่นเกมคอนโซล เช่น
นินเทนโด 64 ลายพิกะจู) ขึ้นถึงมากกว่า 200 ล้านสำเนา ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2005 บริษัท
4คิดส์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ที่จัดการเกี่ยวกับลิขสิทธิ์โปเกมอนที่ไม่ใช่เกม ประกาศว่าบริษัทเห็นว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงตัวแทนแฟรนไชส์โปเกมอนใหม่ บริษัทโปเกมอนของสหรัฐอเมริกา (ปัจจุบันคือ
บริษัทเดอะโปเกมอน) สาขาย่อยของบริษัทโปเกมอนในญี่ปุ่น มีหน้าที่ตรวจตราลิขสิทธิ์โปเกมอนนอกทวีปเอเชีย
ชื่อโปเกมอนเป็น
การย่อคำโรมะจิของยี่ห้อ
พ๊อคเก็ต มอนสเตอร์ ญี่ปุ่น: ซึ่งเป็นการย่อคำที่พบได้ทั่วไปในญี่ปุ่น คำว่าโปเกมอน นอกจากจะอ้างถึงตัวแฟรนไชส์โปเกมอนแล้ว ยังหมายถึง
สิ่งมีชีวิตในนิยาย 649 สปีชีส์ ที่ปรากฏตัวในสื่อโปเกมอนซึ่งได้ออกมาถึงเกมโปเกมอนรุ่นที่ห้าในชื่อ โปเกมอนแบล็ค 2 และไวท์ 2 และด้วยรุ่นใหม่ที่กำลังจะออกมาของโปเกมอนเอ็กซ์และวาย มีโปเกมอนชนิดใหม่ 6 ตัวปรากฏในสื่อสนับสนุนตัวเกมตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013
แนวคิดเกี่ยวกับ
โลกโปเกมอน ทั้งวิดีโอเกมและโลกนิยายของโปเกมอน เกิดมาจากงานอดิเรก
สะสมแมลง ซึ่งซาโตชิ ทาจิริ กรรมการบริหารบริษัทโปเกมอนเคยทำเมื่อยังเด็ก ตัวผู้เล่นในเกมถูกกำหนดให้เป็นโปเกมอนเทรนเนอร์ หรือ
นักฝึกโปเกมอน และมีเป้าหมายสองประการ (ในเกมโปเกมอนส่วนใหญ่) คือ สะสมโปเกมอนทุกชนิดในภูมิภาคที่เกมกำหนดเพื่อให้เติมเต็มโปเกเด็กซ์ หรือสมุดภาพโปเกมอน และเพื่อฝึกฝนทีมของโปเกมอนที่พวกเขาจับได้ให้เอาชนะทีมโปเกมอนของนักฝึกโปเกมอนคนอื่น และกลายเป็นนักฝึกโปเกมอนที่แข็งแกร่งที่สุดเรียกว่า โปเกมอนมาสเตอร์ รูปแบบการสะสม การฝึก และต่อสู้นั้นพบได้ในแฟรนไชส์โปเกมอนทุกเวอร์ชัน รวมถึง
วิดีโอเกม ซีรีส์
อะนิเมะ และ
มังงะ และ
โปเกมอนเทรดดิงการ์ดเกม (Pokémon Trading Card Game)
ในโลกนิยายของโปเกมอนนั้น นักฝึกที่พบโปเกมอนป่าจะสามารถจับโปเกมอนตัวนั้นโดยโยนมอนสเตอร์บอล (อุปกรณ์ทรงกลมที่ออกแบบพิเศษที่ถูกผลิตออกมามาย) ไปที่มัน ถ้าโปเกมอนหลบหนีจากขอบเขตของโปเกบอลไม่สำเร็จ จะถือว่าโปเกมอนตัวนั้นเป็นของนักฝึกคนนั้นทันที ในภายหลัง มันจะเชื่อฟังคำสั่งของนักฝัก ถ้าหากผู้ฝึกไม่ขาดประสบการณ์จนทำให้โปเกมอนเอาแต่ใจตัวเอง นักฝึกสามารถส่งโปเกมอนตัวใดตัวหนึ่งของเขาออกไปเข้าร่วมต่อสู้กับโปเกมอนตัวอื่นในแบบไม่ถึงชีวิต ถ้าโปเกมอนฝั่งตรงข้ามเป็นโปเกมอนป่า นักฝึกสามารถจับโปเกมอนนั้นได้ด้วยมอนสเตอร์บอล และเป็นการเพิ่มโปเกมอนชนิดใหม่ในคอลเลคชันของเขา โปเกมอนที่มีเจ้าของอยู่แล้วไม่อาจถูกจับได้ เว้นแต่ในสถานการณ์พิเศษ ณ จุดใดจุดหนึ่งของเกม ถ้าโปเกมอนเอาชนะคู่ต่อสู้ได้จนคู่ต่อสู้หมดสภาพ (นั่นคือ หมดสติ) โปเกมอนที่ชนะจะได้รับค่าประสบการณ์ และอาจได้เพิ่ม
ระดับหรือเลเวล เมื่อเลเวลเพิ่ม ค่าสถิติ (หรือค่าสเตต) ของในความสถัดแต่ละด้านของโปเกมอนจะเพิ่มขึ้น เช่น ค่าการโจมตีและค่าความเร็ว ตลอดเวลานั้น โปเกมอนอาจได้เรียนรู้ท่า (มูฟ) ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้ในการต่อสู้ นอกจากนี้ โปเกมอนหลายสปีชีส์ยังมีลักษณะพิเศษในการ
ลอกคราบและเปลี่ยนรูปร่างไปเป็นโปเกมอนสปีชีส์ใหม่ที่คล้ายๆกันแต่แข็งแกร่งขึ้น เรียกกระบวนการนี้ว่า
การวิวัฒนาการ
ในเนื้อเรื่องหลัก โหมดเล่นคนเดียวของแต่ละเกมต้องการให้นักฝึกโปเกมอนเลี้ยงดูทีมโปเกมอนเพื่อเอาชนะนักฝึกที่เป็น
ตัวละครที่ไม่ใช่ตัวผู้เล่น (non-player character: NPC) มากมายและโปเกมอนของพวกเขา แต่ละเกมได้ปูเส้นทางเป็นเส้นตรงผ่านภูมิภาคของโลกโปเกมอนสำหรับให้นักฝึกเดินทาง ดำเนินเหตุการณ์สำคัญ (event) และต่อสู้กับคู่ต่อสู้ในระหว่างทาง คุณลักษณะของแต่ละเกมจะเสนอนักฝึกโปเกมอนผู้ทรงพลัง 8 คน เรียกว่า ยิมลีดเดอร์ หรือหัวหน้ายิม ที่นักฝึกจะต้องเอาชนะเพื่อดำเนินเนื้อเรื่อง และจะได้เข็มกลัดยิมเป็นรางวัล และเมื่อได้เข็มกลัดครบ 8 อัน นักฝึกโปเกมอนคนนั้นจะมีสิทธิ์เข้าแข่งขันในโปเกมอนลีกประจำภูมิภาค ซึ่งนักฝึกผู้มีพรสวรรค์ 4 คน (เรียกว่า Elite Four หรือ จตุรเทพทั้งสี่) จะท้าต่อสู้กับนักฝึกให้ต่อสู้ 4 ครั้งแบบรับช่วงต่อกัน ถ้านักฝึกเอาชนะฝีมือของบุคคลเหล่านี้ได้ เขาจะต้องท้าต่อสู้กับแชมเปียนประจำภูมิภาค (Regional Champion) ผู้เป็นนักฝึกระดับมาสเตอร์ที่เพิ่มเอาชนะจตุรเทพทั้งสี่ได้ นักฝึกคนใดที่ชนะการต่อสู้ครั้งสุดท้ายนี้จะกลายเป็นแชมเปียนคนใหม่ และได้ชื่อว่าเป็นโปเกมอนมาสเตอร์
วิดีโอเกม
เจเนอเรชัน
เกมโปเกมอนดั้งเดิมเป็นเกมแนวบทบาทสมมุติ (role-playing games: RPG) ร่วมกับแนววางแผน และถูกสร้างขึ้นโดยซาโตชิ ทาจิริสำหรับ
เกมบอย เกมแนวบทบาทสมมุตินี้และภาคต่อ รีเมค และเวอร์ชันแปลภาษาอังกฤษถือว่าเป็นเกมโปเกมอน "ภาคหลัก" และเป็นเกมที่แฟนคลับส่วนใหญ่อ้างอิงถึงเมื่อพูดถึง "เกมโปเกมอน" ลิขสิทธิ์โปเกมอนทั้งหมดที่ตรวจสอบโดย
บริษัทโปเกมอนถูกแบ่งหยาบๆออกเป็นเจเนอเรชัน เจเนอเรชันเหล่านี้เป็นการแบ่งภาค
ตามลำดับเวลาตามการออกจำหน่ายในทุกๆหลายปี เมื่อภาคต่ออย่างเป็นทางการของเนื้อเรื่องหลักออกจำหน่ายซึ่งนำเสนอโปเกมอนชนิดใหม่ ตัวละครใหม่ ระบบการเล่นใหม่ ภาคต่อภาคนั้นถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเจเนอเรชันใหม่ของแฟรนไชส์ เกมหลักและของเสริม อะนิเมะ และเกมสะสมการ์ดก็จะถูกปรับให้ทันสมัยด้วยคุณลักษณะใหม่ในแต่ละครั้งที่เจเนอเรชันใหม่เริ่มขึ้น แฟรนไชส์โปเกมอนได้เริ่มต้นเจเนอเรชันที่ห้าเมื่อวันที่ 18 กันยายน ค.ศ. 2010 ในประเทศญี่ปุ่น
แฟรนไชส์โปเกมอนเริ่มต้นเจเนอเรชันแรกด้วยการวางจำหน่าย พ็อคเก็ตมอนสเตอร์ อากะแอนด์มิโดริ (เร้ด และกรีน ตามลำดับ) สำหรับเครื่องเกมบอยในญี่ปุ่น เมื่อเกมได้รับความนิยมอย่างสูง เวอร์ชันปรับปรุง อาโอะ (บลู) ถูกจำหน่ายหลังจากนั้น และเวอร์ชันอาโอะถูกแก้ไขใหม่เป็น โปเกมอนเร้ดแอนด์บลู เพื่อจำหน่ายทั่วโลก เกมเปิดตัวในสหรัฐอเมริกาวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 1998 ส่วนเวอร์ชันดั้งเดิม อากะ และ มิโดริ นั้นไม่เคยได้ออกจำหน่ายนอกประเทศญี่ปุ่น หลังจากนั้น เวอร์ชันปรับปรุงต่อไปในชื่อ โปเกมอนเยลโลว์: สเปเชียลพิกะจูเอดิชัน ออกจำหน่ายเพื่อนำคุณสมบัติเกี่ยวกับสีของเครื่องเกมบอยคัลเลอร์มาใช้ รวมถึงนำเสนอเนื้อเรื่องที่ใกล้เคียงกับอะนิเมะมากยิ่งขึ้น เกมเจเนอเรชันแรกนี้นำเสนอโปเกมอนเจเนอเรชันดั้งเดิม 151 ชนิด (เรียงโดยสมุดภาพโปเกมอนสากล ครอบคลุมฟุชิงิดาเนะ จนถึง มิว) และแนวคิดพื้นฐานของเกมเกี่ยวกับการจับโปเกมอน การฝึกฝนโปเกมอน การต่อสู้ และการแลกเปลี่ยนโปเกมอนทั้งกับคอมพิวเตอร์และตัวผู้เล่น เกมเวอร์ชันเหล่านี้ดำเนินเนื้อเรื่องในเขตภูมิภาคคันโต ซึ่งเป็นภูมิภาคสมมุติ แม้ว่าชื่อนี้จะไม่ได้ถูกใช้จนถึงเจเนอเรชันที่สอง
เจเนอเรชันที่สองของโปเกมอนเริ่มขึ้นใน ค.ศ. 1999 ด้วยการจำหน่าย
โปเกมอนโกลด์แอนด์ซิลเวอร์ สำหรับเกมบอยคัลเลอร์ เช่นเดียวกับเจเนอเรชันที่แล้ว เวอร์ชันปรับปรุงชื่อ
โปเกมอนคริสตัล ก็ถูกจำหน่ายในเวลาต่อมา เจเนอเรชันที่สองนำเสนอโปเกมอนตัวใหม่ 100 ชนิด (เริ่มที่
ชิโกริต้า และสิ้นสุดที่
เซเลบี) รวมแล้วมีโปเกมอน 251 ชนิดให้สะสม ฝึกฝน และต่อสู้ นอกจากนี้ยังมี
โปเกมอนมินิซึ่งเป็น
เครื่องเล่นเกมมือถือออกวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2001 ในญี่ปุ่นในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2001 และในยุโรปใน ค.ศ. 2002
โปเกมอนเข้าสู่เจเนอเรชันที่สามด้วยการออกจำหน่าย
โปเกมอนรูบีแอนด์แซฟไฟร์ สำหรับเครื่อง
เกมบอยแอ็ดวานซ์ในปี ค.ศ. 2002 ตามด้วยเกม
โปเกมอนเร้ดแอนด์บลูเวอร์ชันรีเมคในชื่อ
โปเกมอนไฟร์เรดแอนด์ลีฟกรีน และเวอร์ชันปรับปรุงของ
โปเกมอนรูบีแอนด์แซฟไฟร์ในชื่อ
โปเกมอนเอเมอรัลด์ เจเนเรชันที่สามนำเสนอโปเกมอนตัวใหม่ 135 ชนิด (เริ่มที่
คิโมริ และสิ้นสุดที่
เดโอคิชิสุ) รวมเป็น 386 ชนิด อย่างไรก็ตาม เจเนอเรชันนี้ยังได้รับคำวิจารณ์เกี่ยวกับการนำคุณลักษณะของเกมหลายประการออกไป รวมไปถึง ระบบกลางวันกลางคืนที่มีในเจเนอเรชันที่แล้ว และเป็นเวอร์ชันแรกที่ช่วยให้ผู้เล่นสะสมโปเกมอนเพียงจำนวนที่ระบบได้จัดประเภทไว้แทนที่จะต้องสะสมโปเกมอนทุกชนิด (202 ชนิดจาก 386 ชนิดสามารถหาจับได้ในเกมเวอร์ชัน
รูบีแอนด์แซฟไฟร์)
ในปี ค.ศ. 2006 ญี่ปุ่นได้เริ่มเจเนอเรชันที่สี่ของแฟรนไชส์ด้วยการออกจำหน่ายเกม
โปเกมอนไดมอนด์แอนด์เพิร์ล สำหรับเครื่อง
นินเทนโด ดีเอส เจเนอเรชันที่สี่นำเสนอโปเกมอนตัวใหม่อีก 107 ชนิด (เริ่มที่
นาเอโทรุ และสิ้นสุดที่
อาร์เซอุส) ทำให้มีโปเกมอนรวม 493 ชนิด "จอสัมผัส" ของนินเทนโด ดีเอส ทำให้เกมมีคุณลักษณะใหม่ เช่น การทำอาหารโปเกมอนหรือพอฟฟิน (poffin) ด้วยปากกาหรือสไตลัส (stylus) และการใช้ Pokétch แนวคิดระบบการเล่นใหม่รวมไปถึงระบบการจัดประเภทโครงสร้างท่าต่อสู้ใหม่ ระบบการแลกเปลี่ยนระหว่างผู้เล่นแบบออนไลน์และต่อสู้ผ่านการเชื่อมต่อนินเทนโดวายฟาย (Nintendo Wi-Fi Connection) การกลับมา (และส่วนเพิ่มเติม) ของระบบกลางวันกลางคืนจากเจเนอเรชันที่สอง การเพิ่มเติมการประกวดโปเกมอนของเจเนอเรชันที่สามให้เป็น "ซูเปอร์คอนเทสต์" (Super Contest) และภูมิภาคใหม่ชื่อ ซินโนะ (Sinnoh) ที่มีส่วนที่เป็นใต้ดินสำหรับระบบการเล่นแบบหลายคนนอกเหนือจากพื้นที่บนพื้นดิน เช่นเดียวกับโปเกมอน
เยลโลว์ คริสตัล และ
เอเมอรัลด์ เวอร์ชันปรับปรุงของโปเกมอนไดมอนด์แอนด์เพิร์ลมีคือ
โปเกมอนแพลตินัม ออกจำหน่ายในเดือนกันยายน ค.ศ. 2008 ในญี่ปุ่น เดือนมีนาคม ค.ศ. 2009 ในสหรัฐอเมริกา และเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2009 ในออสเตรเลียและยุโรป เกมภาคเสริมในเจเนอเรชันที่สี่คือภาคต่อของ
โปเกมอนสเตเดียมที่ชื่อ
โปเกมอนแบทเทิลเรฟโวลูชัน สำหรับเครื่องวี ที่สามารถเชื่อมต่อวายฟายได้ด้วย นินเทนโดประกาศในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2009 ว่าภาครีเมคของ
โปเกมอนโกลด์แอนด์ซิลเวอร์ในชื่อ
โปเกมอนฮาร์ตโกลด์และโซลซิลเวอร์ ออกจำหน่ายสำหรับเครื่องนินเทนโด ดีเอส ภาค
ฮาร์ตโกลด์และ
โซลซิลเวอร์นั้น เนื้อเรื่องจะอยู่ที่ภูมิภาคโจโตและออกจำหน่ายในเดือนกันยายน ค.ศ. 2009 ในญี่ปุ่น
เจเนอเรชันที่ห้าของโปเกมอนเริ่มในวันที่ 18 กันยายนด้วยการออกจำหน่ายเกม
โปเกมอนแบล็คแอนด์ไวท์ ในญี่ปุ่นสำหรับเครื่องนินเทนโด ดีเอส เดิมบริษัทโปเกมอนได้ประกาศเกมนี้ออกเมื่อวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 2010 ว่ายังไม่แน่นอนว่าจะออกจำหน่ายในปีนั้น ก่อนจะประกาศในวันที่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 2010 ว่าเกมจะออกจำหน่ายวันที่ 18 กันยายน ค.ศ. 2010 เวอร์ชันนี้ฉากถูกตั้งอยู่ที่ภูมิภาคอิชชูหรือยูโนวา และใช้ความสามารถในการเรนเดอร์ 3 มิติของเครื่องนินเทนโด ดีเอสให้มีขอบเขตเหนือกว่าภาคแพลตินัม ฮาร์ตโกลด์และโซลซิลเวอร์ อย่างที่เห็นในฉากตัวผู้เล่นเดินผ่านมหานคร Castelia City มีโปเกมอนตัวใหม่ทั้งหมด 156 ชนิดแนะนำในเจเนอเรชันนี้ (เริ่มที่
วิคทินี่ และสิ้นสุดที่
เกโนเซคท์) รวมถึงกลไลเกมใหม่ เช่น ซีเกียร์ ซึ่งเป็นคุณสมบัติการเชื่อมต่อแบบไร้สาย และความสามารถในการอัปโหลดข้อมูลเกี่ยวกับเกมลงอินเทอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์ของผู้เล่น
โปเกมอนแบล็คแอนด์
ไวท์ออกจำหน่ายในยุโรปวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 2011 ในอเมริกาเหนือวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 2011 และออสเตรเลียในวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 2011 ในวันที่ 23 มิถุนายน ค.ศ. 2012 นินเทนโดออกจำหน่าย
โปเกมอนแบล็คทูแอนด์ไวท์ทูในญี่ปุ่นสำหรับเครื่องนินเทนโด ดีเอส และในอเมริกาเหนือและยุโรปเมื่อต้นเดือนตุลาคม
ในวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 2013 นินเทนโดประกาศเกม
โปเกมอนเอ็กซ์แอนด์วาย สำหรับเครื่อง
นินเทนโด 3ดีเอส อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเจเนอเรชันที่หกของเกม เกมจะถูกเรนเดอร์ในแบบ 3 มิติ และออกจำหน่ายพร้อมกันทั่วโลกในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2013
กลไกของเกม
แกนหลักของซีรีส์เกมโปเกมอนนั้นพัวพันกับการจับและการต่อสู้กับโปเกมอน เริ่มจากโปเกมอนเริ่มต้น ผู้เล่นสามารถจับโปเกมอนป่าโดยทำให้มันอ่อนแอและจับมันด้วยโปเกบอล ในทางกลับกัน พวกเขาสามารถเลือกที่จะต่อสู้กับมันให้ชนะแล้วโปเกมอนจะได้รับค่าประสบการณ์ เป็นการเพิ่มระดับหรือเลเวลและสอนท่าใหม่ ๆ ให้กับมัน โปเกมอนตัวหนึ่งสามารถวิวัฒนาการไปเป็นร่างใหม่ที่แข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยการเพิ่มระดับหรือด้วยการใช้ไอเทมที่เกมกำหนด ตลอดการเล่นเกม ผู้เล่นจะต้องต่อสู้กับนักฝึกโปเกมอนเพื่อดำเนินเรื่อง ด้วยเป้าหมายหลักคือหัวหน้ายิมที่หลากหลายและได้สิทธิในการเป็นแชมเปียนในทัวร์นาเมนต์ เกมภาคต่อๆมาได้เปิดตัวภารกิจรองมากมาย รวมุถึงแบทเทิลฟรอนเทียร์ที่มีรูปแบบการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์ และการประกวดโปเกมอนที่จะได้เห็นการแสดงของโปเกมอนบนจอ
โปเกมอนเริ่มต้น
อีกมุมมองที่สอดคล้องกันของเกมโปเกมอน ตั้งแต่โปเกมอน
เร้ด และ
บลู บนเครื่อง
เกมบอย ไปจนถึงโปเกมอน
แบล็ค และ
ไวท์บนเครื่อง
นินเทนโด ดีเอส คือการที่ผู้เล่นสามารถเลือกโปเกมอนหนึ่งในสามที่กำหนดไว้เป็นตัวเริ่มต้นของการผจญภัย เรียกโปเกมอนสามตัวเหล่านี้ว่า "โปเกมอนเริ่มต้น" (starter Pokémon) ผู้เล่นสามารถเลือกโปเกมอนรูปแบบพืช รูปแบบไฟ หรือรูปแบบน้ำได้ ตัวอย่างเช่น ในโปเกมอน
เร้ด และ
บลู(และเวอร์ชันรีเมค ไ
ฟร์เร้ด และ
ลีฟกรีน) ผู้เล่นสามารถเลือก
ฟุชิงิดาเนะ ฮิโตะคาเงะ และ
เซนิกาเมะ แต่ในโปเกมอน
เยลโล่ว์ ซึ่งเป็นภาคที่สร้างขึ้นโดยมีเนื้อเรื่องอ้างอิงตามเนื้อเรื่องของ
อะนิเมะ ผู้เล่นจะได้รับ
พิกะจู รูปแบบไฟฟ้า มาเป็นโปเกมอนเริ่มต้น แต่อย่างไรก็ตาม ในภาคนี้ ผู้เล่นจะได้รับโปเกมอนเริ่มต้นสามตัวของภาค
เร้ด และ
บลู ระหว่างทางในภายหลัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นในเกมอื่น ๆ ของแฟรนไชส์
[21] อีกมุมมองหนึ่ง คู่แข่งของผู้เล่นจะเลือกโปเกมอนเริ่มต้นที่มีรูปแบบได้เปรียบกับโปเกมอนของเราเสมอ ตัวอย่างเช่น ถ้าผู้เล่นเลือกโปเกมอนรูปแบบ
พืช คู่แข่งก็จะเลือกโปเกมอนรูปแบบ
ไฟ เป็นต้น แต่ในโปเกมอน
เยลโล่ว์ ซึ่งมีข้อยกเว้นนั้น คู่แข่งจะเลือก
อีวุยเป็นโปเกมอนเริ่มต้น แต่ต่อมาอีวุยจะพัฒนาร่างได้เป็น
ธันเดอร์ส ชาวเวอร์ส หรือ
บูสเตอร์นั้น จะถูกตัดสินจากผลการต่อสู้กับคู่แข่งว่าแพ้หรือชนะในระหว่างทาง ในเกมบนเครื่องเล่น
เกมคิวบ์ ที่ชื่อ
โปเกมอนโคลอสเซียม และ
โปเกมอนเอ็กดี: เกลออฟดาร์คเนส ก็มีข้อยกเว้น นั้นคือในขณะที่เกมส่วนใหญ่ โปเกมอนเริ่มต้นจะเริ่มที่เลเวล 5 แต่เกมเหล่านี้จะเริ่มต้นการเดินทางที่เลเวล 10 และ 25 ตามลำดับ ใน
โคลอสเซียม โปเกมอนเริ่มต้นของผู้เล่นคือ
เอฟี และ
แบล็คกี้ และใน
เกลออฟดาร์คเนส โปเกมอนเริ่มต้นของผู้เล่นคือ อีวุย
สมุดภาพโปเกมอน
สมุดภาพโปเกมอน เป็นเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์สมมุติในอะนิเมะและวิดีโอเกมโปเกมอน สำหรับในเกมนั้น เมื่อใดที่โปเกมอนตัวหนึ่ง ๆ ถูกจับเป็นครั้งแรก ข้อมูลของมันจะเพิ่มเข้าไปในสมุดภาพนี้ แต่ใน
อะนิเมะหรือ
มังงะนั้น สมุดภาพโปเกมอนเป็น
สารานุกรมอิเล็กทรอนิกส์ ปกติมีไว้เพื่อให้ข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ของโปเกมอน สมุดภาพโปเกมอนยังใช้ในการอ้างอิงถึงรายชื่อโปเกมอนซึ่งโดยทั่วไปจะเรียงตามหมายเลข ในวิดีโอเกม นักฝึกโปเกมอนจะเห็นเป็นที่ว่างเปล่า ณ ขณะเริ่มต้นเกม ผู้ฝึกจะต้องพยายามเติมเต็มสมุดภาพโดยเผชิญหน้ากับโปเกมอน และจับมันให้ได้สายพันธุ์ที่แตกต่างกัน ผู้เล่นจะเห็นชื่อและรูปภาพของโปเกมอนหลังจากได้พบเจอโปเกมอนที่ไม่เคยเจอมาก่อน หลังจากการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นโปเกมอนป่า หรือการต่อสู้กับผู้ฝึกคนอื่น (ยกเว้นการต่อสู้แบบเชื่อมต่อเครื่องเล่นกับผู้เล่นคนอื่น เช่นใน
แบทเทิลฟรอนเทียร์) ในโปเกมอนภาคเร้ดและบลู ข้อมูลโปเกมอนจะเพิ่มในสมุดภาพง่าย ๆ โดยการดูรูปโปเกมอน เช่นใน
สวนสัตว์นอกเขตซาฟารีโซน ตัวละคร NPC ก็อาจทำให้สมุดภาพเพิ่มข้อมูลโปเกมอนเข้าไปได้โดยการอธิบายลักษณะของโปเกมอนระหว่างการพูดคุยกัน ข้อมูลอื่น ๆ หาได้หลังจากผู้เล่นได้รับโปเกมอนสายพันธุ์นั้น ๆ แล้ว หรืออาจจะผ่านการจับโปเกมอนป่า
การพัฒนาร่างของโปเกมอน การฟักไข่ (ตั้งแต่รุ่นที่สองเป็นต้นมา) หรือการแลกเปลี่ยนโปเกมอน ข้อมูลที่จะได้เห็นเหล่านั้นเช่น
น้ำหนัก ส่วนสูง ชนิดสายพันธุ์ และรายละเอียดสั้น ๆ ของโปเกมอน ในภาคต่อ ๆ มา สมุดภาพรุ่นใหม่อาจมีข้อมูลรายละเอียดที่มากขึ้นเช่น ขนาดของตัวโปเกมอนเปรียบเทียบกับตัวผู้ฝึก หรือรายชื่อโปเกมอนแยกตามถิ่นที่อยู่อาศัย (ข้อมูลนี้จะเห็นได้แค่ในภาคไฟร์เร้ดและลีฟกรีนเท่านั้น) สมุดภาพโปเกมอนล่าสุดสามารถจุข้อมูลของโปเกมอนทุกตัวที่รู้จักกันในปัจจุบัน เกมโปเกมอน โคลอสเซียม และโปเกมอนเอกซ์ดี:เกลออฟดาร์คเนส บนเครื่องเกมคิวบ์ มีระบบ
การช่วยเหลือข้อมูลโปเกมอนแบบดิจิทัล (Pokémon Digital Assistant; P★DA) ดูคล้ายกับสมุดภาพโปเกมอน แต่สามารถบอกว่าโปเกมอนรูปแบบไหนได้เปรียบหรือเสียเปรียบโปเกมอนรูปแบบไหน และยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับความสามารถเฉพาะของโปเกมอนได้ด้วย